
“อนุทิน” ย้ำฝ่ายปกครอง–เร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์ยาเสพติด–จัดระเบียบสังคม–ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ก่อนบินด่วนลงพื้นที่น้ำท่วมทันทีหลังเสร็จภารกิจ เบื้องต้นส่งรมว.คมนาคมลงพื้นที่แล้ว พร้อมระดมความช่วยเหลือ และเครื่องมือ-เครื่องจักรจากภาคเหนือช่วยเต็มกำลัง
เมื่อเวลา 13.30น.วันที่ 22 พ.ย. 2568 ที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด,หัวหน้าส่วนราชการ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, สารวัตรกำนัน และผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมติดตามผลดำเนินงานของรัฐบาลในหลายมิติ ทั้งด้านความมั่นคงทางสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร (บุรีรัมย์โมเดล) การฟื้นฟูผู้บำบัดยาเสพติดในจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนมาตรการสร้างงาน สร้างอาชีพ การส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ประกอบด้วนโครงการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน และโครงการคนละครึ่งพลัส


นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งเดินหน้าทำงานให้รวดเร็ว รอบด้าน และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมเน้นบทบาทฝ่ายปกครองใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ความสุจริตของเจ้าหน้าที่คือหัวใจสำคัญ หากพบเบาะแสการกระทำผิดต้องร่วมกันสกัดกั้นและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ดำเนินการทั้งการลดจำนวนผู้เสพ การเพิ่มการบำบัดรักษา การปราบปรามผู้ค้า และทำลายเครือข่ายผลิต พร้อมชื่นชมศูนย์ฟื้นฟูชุมชนจังหวัดขอนแก่นว่าเป็นต้นแบบของประเทศ พร้อมสั่งการให้ทุกหมู่บ้านเร่งคัดกรองผู้เสพ และเข้มการปราบปรามผู้ค้าในทุกระดับ อำเภอ–ตำบล–หมู่บ้าน และการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มอาชีพ การพัฒนาสินค้าให้ขายได้จริง ไม่ใช่เพียงผลิตเพื่อขายแบบสงสาร พร้อมผลักดันสินค้าโอทอป เพิ่มช่องทางจำหน่าย และสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น


“การพัฒนาระบบราง รถไฟความเร็วสูง เส้นทางขนส่งชายแดน และระบบศุลกากรไทย–ลาว ที่จะเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และมูลค่าสินค้าเกษตรของภาคอีสานให้สูงขึ้นอีกทั้งรัฐบาลเดินหน้าเพิ่มการเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด น้ำประปา การยกระดับการรักษาพยาบาล และเตรียมแนวทางขยายวัยเกษียณแบบขั้นบันได เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุและลดภาระของประชาชนในอนาคต สำหรับโครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการที่ช่วยประชาชนจริง และขณะนี้กำลังจัดทำเฟสสอง โดยเน้นให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้าถึงโครงการมากขึ้น ผ่านการจัดอบรมอัปสกิล เช่น การใช้ระบบสแกนจ่าย–รับเงิน และการทำธุรกรรมดิจิทัล เพื่อให้ขายสินค้าได้สะดวกขึ้นและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน พร้อมกำชับให้ทุกพื้นที่ช่วยประชาชนลงทะเบียนให้ทั่วถึง และป้องกันการทุจริตทุกรูปแบบ”


นายอนุทิน กล่าวต่อว่ารัฐบาลมีแผนเผชิญเหตุและแนวทางช่วยเหลือตามระเบียบอย่างชัดเจน โดยแต่ละจังหวัดได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าและเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนการเยียวยาความเสียหายทางการเกษตร ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งนี้ในแต่ละจังหวัดได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว ทั้งยังคงได้เน้นย้ำกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดไปว่า เวลานี้คือไม่ต้องไปกังวลเรื่องงบช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะในส่วนของจังหวัดเองมีงบช่วยเหลือสำหรับพื้นที่ประสบภัยอยู่แล้ว และยังได้เน้นย้ำไปยังหน่วยงานท้องถิ่นด้วยซึ่งมีงบช่วยเหลือฉุกเฉินสำรองงบประมาณไปก่อนได้


“วันนี้จะลงพื้นที่ไปดูเพื่อบูรณาการในภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะแค่ในหาดใหญ่ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ทางรัฐมนตรีคมหาคมลงพื้นที่ไปก่อนแล้ว ฝากถึงพี่น้องที่ประสบภัยตอนนี้ว่า เราได้ระดมเรื่องความช่วยเหลือลงไปอย่างเต็มกำลัง รวมทั้งเครืองมือเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำจากเขตภาคเหนือลงไปอย่างเต็มที่ ส่วนมูลค่าความเสียหายต้องรอการตรวจสอบและสรุปอีกครั้ง”
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ 084-0323211-0628929797















![]()
![]()