วันศุกร์, 13 ธันวาคม 2567

มข.มีความเป็นเลิศทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยการใช้นวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ด้านการดูแลสุขภาพ (AI for Healthcare) ผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 ณ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีการจัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศระดับทวิภาคีและพหุภาคี : ปัญญาประดิษฐ์ด้านการดูแลสุขภาพ (AI for Healthcare) เพื่อความเป็นเลิศด้านการแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน จากนั้น เป็นปาฐกถา(Online) ในหัวข้อ “Will AI Change the World and Thailand: Healthcare Perspectives” โดย ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ภายในงานยังมี รศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและบริการวิชาการ รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.ดร.อัจฉราวรรณ โตภาคงาม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ ศ.พญ.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา รศ.ดร. วนิดา แก่นอากาศ ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดร่วมในงานครั้งนี้ด้วย

โครงการเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศระดับทวิภาคีและพหุภาคี : ปัญญาประดิษฐ์ด้านการดูแลสุขภาพ (AI for Healthcare) จัดขึ้นในระหว่าง วันที่ 23-24 กรกฎาคม 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยการใช้นวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ ผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยมีคณาจารย์นักวิชาการจากคณะวิชาต่างๆ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด(Harvard University) และมหาวิทยาลัยเอ็ม ไอ ที (Massachusetts Institute of Technology) สถาบันภายในประเทศ และภาคเอกชน เข้าร่วมกิจกรรม

รูปแบบของกิจกรรมโครงการเป็นการบรรยายในหัวข้อหลักคือ ความสำคัญและประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ขอบเขตการใช้งานของปัญญาประดิษฐ์ เช่น การตรวจคัดกรอง การสื่อสารระหว่างบุคลากรการแพทย์ หรือสถานบริการสุขภาพ และระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วย การวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ การรักษาที่เจาะจงสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย การติดตามอาการผู้ป่วย การส่งเสริมการใช้ยาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การฟื้นฟูสุขภาพ การเชื่อมโยงกับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data management and machine learning) ประสบการณ์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ MIT ในการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในสถานการณ์จริงของโลก แนวโน้มการใช้ปัญญาประดิษฐ์ใน 10 ปีข้างหน้า และ ข้อควรตระหนักด้านกฎหมาย จริยธรรม จรรยาบรรณในการนำปัญญาประดิษฐ์มาให้ในการดูแลสุขภาพ

 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ความสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ด้านการดูแลสุขภาพ (AI for Healthcare) เพื่อความเป็นเลิศด้านการแพทย์ ว่า เรื่องของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในทุกมิติ แต่สำหรับการประชุมในครั้งนี้เราเน้นในเรื่องของการดูแลสุขภาพหรือ Healthcare ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งคือการที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำลังดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ หรือ Medical Hub ที่กำลังมีการก่อสร้างอาคารและการขยายผลการดำเนินการ สำหรับในวงการแพทย์แล้วปัญญาประดิษฐ์มีความเกี่ยวข้องในหลายด้าน เช่นการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เรื่องของเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งการวินิจฉัยโรคที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย เช่นการอ่านชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา การอ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ด้วยปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถที่สูงในการตรวจสอบ ที่จะช่วยลดความผิดพลาดและแปลผลได้อย่างละเอียดแม่นยำ นอกจากนี้ยังรวมถึง Machine Learning ที่เป็นหุ่นยนต์เครื่องมือช่วยทางการแพทย์ จะเห็นว่าปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทมาก ดังนั้นการที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำลังจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ หรือ Medical Hub จึงได้นำเอาเรื่องของ AI มาเป็นประเด็นสำคัญ รวมทั้งต่อไปเราจะมีหลักสูตรในระดับปริญญาโทในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์แพทย์ด้วย ซึ่งในครั้งนี้ ฝ่ายการต่างประเทศโดย ผศ.ดร.อัจฉราวรรณ โตภาคงาม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ พร้อมด้วย กองการต่างประเทศ และสำนักหอสมุด จึงได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ภายใต้งบประมาณจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และที่สำคัญเราได้วิทยากรระดับโลกจากสถาบันชั้นนำ จาก Massachusetts Institute of Technology (MIT), Carnegie Mellon University (CMU), New York University (NYU), มาบรรยาย รวมทั้งสถาบันภายในประเทศ และภาคเอกชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนังานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด, บริษัท AIS, IBM, และ Nvidia และสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งมีคนเข้าร่วมฟังกว่า 800 คน ที่ติดตามความก้าวหน้าในเรื่องปัญญาประดิษฐ์

มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความตั้งใจที่จะนำเรื่องปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้ เกิดเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อจะทำให้เกิดประโยชน์และขยายผลเพื่อคนไทยทั้งประเทศต่อไป” รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในตอนท้าย

ที่มา/https://th.kku.ac.th/27261/

Loading