“พงษ์ โปงลางสะออน” รับตำแหน่ง นายก ทต.บ้านค้อ วันแรก ประกาศพัฒนาทุกหมู่บ้านตามความต้องการของประชาชน พร้อมประสานสิบทิศร่วมผู้นำชุมชน-สมาชิกสภาฯ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เจ้าตัวย้ำชัด หมดเวลาเล่นการเมืองแบบเก่าเพราะถึงเวลาที่ทุกคนต้องทำงานเพื่อบ้านเมือง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 พ.ค.2564 ที่ห้องประชุมสภา เทศบาลตำบลบ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายมานพ โสมพรหมมา ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านค้อ หรือ ทต. เป็นประธานเปิดการประชุมสภาสมัยสามัญที่ 1/2564 เพื่อให้คณะผู้บริหารได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ ตามระเบียบข้อบังคับของกระทรวงมหาดไทย ภายหลังจากการเลือกตั้ง นายกและสมาชิกสภา ทต.บ้านค้อ แล้วเสร็จและ กกต.ได้มีมติรับรองผลการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ในช่วงก่อนการประชุม นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และ นายปิยพงษ์ ช่างเหลา ส.อบจ.ขอนแก่น รวมไปถึงผู้นำชุมชนในเขต ต.บ้านค้อ ประธาน อสม. ประธานกลุ่มสตรี และประชาชนในเขต ต.บ้านค้อ ได้มามอบช่อดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับนายจักรพงษ์ เพชรแสน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านค้อ หรือพงษ์ โปลางสะออน อดีตสมาชิกวงโปงลางสะออน พร้อมทีมบริหารและ สมาชิกสภาฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งและเริ่มปฎิบัติงานที่ ทต.บ้านค้อ วันนี้เป็นวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่น
นายจักรพงษ์ เพชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาพื้นที่ทุกหมู่บ้านที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องของงานโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ทุกหมู่บ้านจะต้องได้รับการพัฒนาที่ตรงจุด มีการจัดลำดับการจัดการตามความจำเป็นไม่หมกเม็ด ไม่สอดไส้ และทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบบูรณาการทั้งฝ่ายสภาฯ,ฝ่ายบริหาร,ข้าราชการ และผู้นำชุมชนจากทุกหมู่บ้าน เพราะในเมื่อประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตนเองเข้ามาทำงาน เข้ามาบริหารพื้นที่ตำบลบ้านเกิดของตนเอง ทุกนโยบายที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับเป็นสิ่งที่ต้องทำทันทีไม่มีคำว่ารอและไม่มีคำว่าไม่
“ ขอขอบคุณชาว ต.บ้านค้อ ทุกท่านที่ไว้วางใจให้ผมและทีมบริหารได้เข้ามาทำงานเป็นปากเป็นเสียงและพัฒนาพื้นที่ในด้านต่างๆให้ครบทุกมิติ ผมเกิดที่บ้านค้อ โตที่บ้านค้อ และจะขอตายที่บ้านค้อ จึงมีความสนิท มักคุ้นและคุ้นชินกับพื้นที่อย่างมาก นโยบายทุกด้านที่ได้นำเสนอต่อประชาชนในช่วงของการหาเสียง ที่มาจากความต้องการของทุกพื้นที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คณะทำงานทุกคนจะทำทันที ภายใต้งบประมาณที่จำกัด ดังนั้น การเมืองแบบเดิมคงไม่มีเกิดขึ้นที่ ต.บ้านค้อ เพราะการทำงานตามแนวทางและแผนงานต่างๆเป็นสิ่งที่ท้าทายคณะทำงานอย่าง ดังนั้นจากนี้ไปการทำงานร่วมกัน 4 ปี จากทุกฝ่าย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ตะต้องบูรณาการแผนงาน และเป็นตามความต้องการของประชาชนที่แท้จริง