วันศุกร์, 13 ธันวาคม 2567

(มีคลิป)บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัดและโรงพยาบาลราชพฤกษ์เปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ เพื่อผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็น Medical Hub อย่างเต็มภาคภูมิ

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา11.30น ณ ห้องประชุม RPH ชั้น 13 โรงพยาบาลราชพฤกษ์ ได้มีพิธลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัดและโรงพยาบาลราชพฤกษ์เปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ มีนายรุจติศักดิ์ รังสี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น,นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด(มหาชน),นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการจังหวัดขอนแก่นและนายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธี

        สำหรับบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสถาบันการฝากเก็บ คัดแยกเพาะเลี้ยงและวิจัยสเต็มเซลล์แบบครบวงจร พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ “บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน)” โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของจังหวัดขอนแก่น ให้บริการทางการแพทย์ อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล (JCI International และ GHA-for COVID-19) ด้วยการเปิด ศูนย์การเก็บไขมัน เพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่มีมาตฐาน ปลอดภัย และมอบการบริการเหนือระดับด้วยบุคลากร

และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้วยหัวใจเป็นที่ตั้งสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของภาคอีสาน จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้ได้การฝากเก็บสเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem cell) ส่วนบุคคล สำหรับเราทุกคนที่พลาดโอกาสการเก็บสเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด ซึ่งมูลค่าของตลาดนี้ในระดับโลกถือว่าประเมินต่ำไม่ได้เพราะทุกคนสามารถฝากเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองได้ตั้งแต่อายุ 10 ปีเป็นต้นไป

ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center)มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่มีพฤติกรรมการเลือกบริโภคสินค้าหรือบริการและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มักจะมองเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง รวมทั้งยังมองหาทางเลือกที่ใช้นวัตกรรมอันก้าวหน้าใหม่ 1 ในการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงให้กับคนเอง รวมไปถึงอยากให้ตนแลดูอ่อนวัยและมีบุคลิกรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผู้คนในโลกปัจจุบันกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากวิกฤติด้านสุขภาวะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมลพิษ จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เมดีซ กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยในปัจจุบัน เรามียอดรวมจำนวนการเก็บสเต็มเซลล์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
“ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center)มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่มีพฤติกรรมการเลือกบริโภคสินค้าหรือบริการและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มักจะมองเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง ทั้งยังมองหาทางเลือกที่ใช้นวัตกรรมอันก้าวหน้าใหม่ ๆ ในการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงให้กับตนเอง รวมไปถึงอยากให้ตนแลดูอ่อนวัยและมีบุคลิกรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ”

นายแพทย์วีรพล กล่าวอีกว่า เทคโนโลยีการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งสเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cell: MSCs) ในอดีตเรามีความเข้าใจกันว่าควรจัดเก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือของทารกแรกเกิดเท่านั้น แต่เราพยายามพัฒนานวัตกรรมการคัดแยกและเพราะเลี้ยงสเต็มเซลล์นี้จากเนื้อเยื่อไขมันอย่างมุ่งมั่น เพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่พลาดโอกาสการฝากเก็บสเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ดีที่สุดของตัวเองอีกครั้ง การฝากเก็บ MSCs” ของตัวเอง ไว้เพื่อตัวเองในอนาคต นับเป็นหนทางที่ปลอดภัยและไม่ขัดต่อจริยธรรมใดในการดูแลสุขภาพของมนุษย์ที่จะพึงมีได้

นายแพทย์ธีระวัฒน์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (CellHarvesting Center) ที่โรงบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการสำหรับผู้รับบริการในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง ผู้รักสุขภาพจากสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประเทศลาว และนานาชาติ ที่มีความต้องการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันที่มีคุณภาพดี ทำให้ทุกขั้นตอนปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้คือการวางรากฐานของสุขภาพสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

ด้านนายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้า การลงทุน การบริการ เพื่อเชื่อมโยงอนุภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือในการเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จะนำนวัตกรรมระดับโลกของคนไทย จะเข้ามาส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการบริการด้านสุขภาพเพื่อคนขอนแก่น และจะเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวที่จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวิสัยทัศน์ ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่นวัตกรรม ศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาคกลุ่มน้ำโขง

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาอย่างเข้มแข็ง ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การศึกษา และวัฒนธรรม เรามีปัจจัยต่างๆที่ส่งเสริมให้จังหวัดมีความสามารถในการที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้นจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็น MedicalHub ที่มีนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาให้บริการจังหวัดขอนแก่นของเราจะถูกจับตามองในฐานะจังหวัดที่น่าลงทุนทางเศรษฐกิจและลงทุนทางด้านสุขภาพอย่างแน่นอน

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg

Loading


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ผู้ตรวจการแผ่นดินจัดงานสัมมนาโครงการ “ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชน ครั้งที่ 54” จังหวัดขอนแก่น
สมาคมส่งเสริมผู้เลี้ยงโค (ภาคอีสาน)  เดินหน้าขับเคลื่อน เพื่อยกระดับการผลิตโคเนื้อไทยเพื่อขยายการส่งออกไปสู่ต่างประเทศ
ตำรวจขอนแก่นระดมกวาดล้างรถแต่งซิ่ง ยึดรถได้มากกว่า 215 คัน และท่อไอเสีย 235 ชิ้น เท่านั้นยังไม่พอบุกทลาย แก็งค์ ขโมย จยย.ขายออนไลน์นำเงินซื้อยาบ้าเสพ
บช.ภ.4 จัดเต็ม รวบขบวนการค้ายาเสพตามแนวแม่น้ำโขง รวบผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า-ยาไอซ์-เฮโรอีน อื้อ
ราชมงคลขอนแก่นจัดพิธีเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ฯ
เกษตรกรขอนแก่น ระบุ รัฐบาล “อุ้งอิ้ง” ไม่จริงใจ หลังอนุมัติช่วยเหลือชาวนาไทยเหลือ 10 ไร่ต่อครัวเรือน พร้อมระบุสู้รัฐบาล “ลุงตู่”ไม่ได้ เพราะเคยได้ถึงครัวเรือนละ 20,00 บาท